ชุมนุม สาดกระสุน นองเลือด! ย้อนคดี 'มือปืนป๊อปคอร์น' ยิงสนั่นกลางแยกหลักสี่ สิ้นสุดคดีแล้ว


Loading...

ย้อนรอยคดี 'มือปืนป๊อปคอร์น' เหตุการณ์รุนแรงปะทะสนั่น ระหว่างผู้ชุมนุม กปปส. กับ ผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง บริเวณแยกหลักสี่ เมื่อปี 2557 จนวันที่ศาลฎีกาพิพากษาตัดสินผู้ก่อเหตุ...

จากเรื่องราวความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่างผู้ชุมนุม กปปส. กับ ผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง จนนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงยิงกันสนั่นกลางแยกหลักสี่ โดยมีชายฉกรรจ์ปิดบังใบหน้าซุกซ่อนอาวุธปืนในถุงป๊อปคอร์นลอบยิงผู้ชุมนุม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ณ ตอนนั้นทำให้ชื่อของ 'มือปืนป๊อปคอร์น' ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ทีมข่าวเจาะประเด็น จะพาย้อนไปจุดเริ่มต้นเหตุการณ์วันนั้น...


จุดชนวนเหตุการณ์ระทึก เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557

กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงรวมตัวกันในวัดหลักสี่ 'โกตี๋' หรือ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำ ประกาศว่า พรุ่งนี้เขตหลักสี่จะต้องมีการเลือกตั้ง (หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นประกาศยุบสภา โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557)

ต่อมาได้มอบหน้าที่นำมวลชนให้กับ นายพรชัย ด้วงแดงโชติ หรือ 'ดาบเปี๊ยก' โดยมีการเจรจาจากเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนมวลชน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการเผชิญหน้าและปะทะกับกลุ่ม กปปส. ที่นำโดย 'พระพุทธะอิสระ' ที่ปักหลักชุมนุมปิดล้อม เพื่อไม่ให้มีการนำบัตรเลือกตั้งไปยังที่ต่างๆ ตามมติแกนนำ กปปส.

กระทั่งเวลา 15.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่วัดหลักสี่ เคลื่อนมวลชนมายังสำนักงานเขตหลักสี่ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจทุ่งสองห้องนำรถตู้มาจอดขวาง ขณะที่ขบวนรถของผู้ชุมนุม กปปส. เคลื่อนจากเวทีห้าแยกลาดพร้าวมายังบริเวณแยกหลักสี่ ใกล้กับบริเวณผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ก่อน ทำให้เกิดการขว้างปาสิ่งของใส่กันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ


ขณะที่ เหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอีก เมื่อมีการทุบรถของมวลชนอีกฝ่าย ช่วงวินาทีที่สถานการณ์อยู่ในภาวะตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มีเสียงคล้ายประทัดยักษ์และเสียงปืนดังขึ้น ส่งผลให้ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ 1 ราย และได้รับการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลวิภาวดี

ทั้งนี้ สื่อมวลชนหลายสำนักสามารถบันทึกภาพชายฉกรรจ์ปิดบังใบหน้าที่ซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ในกระสอบป๊อปคอร์นถุงสีเขียวเหลือง จนมีการเผยแพร่ไปสู่สังคมออนไลน์จำนวนมาก นำมาสู่การตั้งฉายาชายคนก่อเหตุว่า 'มือปืนป๊อปคอร์น'


ต่อมาวันที่ 18 มี.ค. 57 ศาลอาญาออกหมายจับ นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือ ท๊อป 'มือปืนป๊อปคอร์น' ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นเพียงหนึ่งวัน ตำรวจก็สามารถจับกุมตัว นายวิวัฒน์ ได้ที่ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี


หลังจาก พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ควบคุมตัว นายวิวัฒน์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายวิวัฒน์รับสารภาพว่าได้เข้าร่วมเป็นการ์ด กปปส. ใน 'กลุ่มองค์ดำ' จากการเชิญชวนของเพื่อน โดยได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุได้มาจากการ์ด กปปส. ก่อนก่อเหตุได้รับสัญญาณวิทยุสื่อสารจากการ์ด ให้ออกมาช่วยพระพุทธะอิสระที่เกรงว่าจะถูกยึดพื้นที่ จึงไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง ได้ยิงปืนประมาณ 20 นัด


ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. กล่าวว่า ไม่รู้จัก นายวิวัฒน์ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับพวกเรา เพราะไม่มีแกนนำท่านใดรู้จักเลย แต่ก็ต้องขอขอบคุณที่ออกมาช่วยชีวิตประชาชน

กระทั้งวันที่ 3 มี.ค. 59 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้อ่านคำพิพากษาคดี 'มือปืนป๊อปคอร์น' ว่า จำเลยมีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ จำคุก 3 ปี และความผิดฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ จำคุก 3 ปี แต่คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 37 ปี 4 เดือน


ต่อมาวันที่ 27 มิ.ย. 60 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง นายวิวัฒน์ คดีพยายามฆ่ากลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ที่บริเวณห้างไอทีสแควร์ ย่านหลักสี่ เมื่อ ก.พ. 57 ชี้หลักฐานไม่เพียงพอ แต่ยังให้นำตัวไปขังไว้ระหว่างฎีกา


ล่าสุด วันที่ 7 พ.ย. 61 ศาลอาญารัชดา นัดฟังคำพิพากษาฎีกา นายวิวัฒน์ ว่าพยานหลักฐานที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาให้ยกฟ้องจำเลยนั้น ยังคลาดเคลื่อนไปจากพยานหลักฐานที่โจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบมา ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษากลับให้จำคุกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นเวลา 37 ปี 4 เดือน ถือเป็นการสิ้นสุด 'คดีมือปืนป๊อปคอร์น' แล้ว.


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : thairath