Loading...
งานวิวาห์เลือด – เมื่อ 18 ส.ค. เอพี รายงานเหตุก่อการร้ายสะเทือนขวัญกลางงานฉลองสมรสของคู่บ่าวสาวอัฟกันในกรุงคาบูล สังหารหมู่ผู้ร่วมงาน 63 ราย บาดเจ็บ 182 คน จากแขกเหรื่อที่ได้รับเชิญเข้าร่วมยินดีกับบ่าวสาวกว่า 1,200 คน เป็นการโจมตีที่สังหารเหยื่อมาที่สุดในปีนี้
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 17 ส.ค. ที่ห้องโถงจัดงานวิวาห์ของอาคารดูไบ ซิตี ฝั่งตะวันตกของกรุงคาบูล เป็นชุมชนของชนกลุ่มน้อย ชีอะห์ ฮาซารา
ผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า คนร้ายจุดชนวนระเบิดกลางวงแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน แม้ตอนแรกไม่แน่ชัดว่าเป็นฝีมือกลุ่มใด จากที่กลุ่มตาลิบันและกลุ่มไอเอส ผลัดกันก่อเหตุมาเป็นระยะ แต่ต่อมาตาลิบันออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้อง และไอเอสประกาศตัวว่าเป็นฝ่ายลงมือเอง คาดว่าต้องการดิสเครดิตตาลิบันที่กำลังเจรจาสงบศึกกับสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากช่วงเวลานี้อยู่ระหว่างการเจรจาระหว่างตัวแทนรัฐบาลสหรัฐอเมริกากับตาลิบันที่มีแนวโน้มจะบรรลุผล หากสหรัฐถอนทหารออกไป และตาลิบันคุมไม่ให้เกิดการก่อเหตุร้ายได้ เพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อมา 18 ปี
ผู้บาดเจ็บรายหนึ่งชื่อ กุล โมฮัมหมัด กล่าวว่า ระเบิดลั่นขึ้นใกล้เวทีที่นักดนตรียืนอยู่ เด็กๆ ผู้หญิง และแขกทุกคนที่อยู่ตรงนั้นไม่มีใครรอดชีวิต
นายอาหมัด โอมิด ผู้รอดชีวิตอีกคน กล่าวว่า อยู่กับเจ้าบ่าวอีกห้องหนึ่งตอนเกิดระเบิด พอได้ยินเสียงระเบิดก็ไม่พบใครเลย เห็นแต่ร่างคนเกลื่อนอยู่บนพื้นห้องโถงที่เลือดนอง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. กลุ่มตาลิบันเพิ่งก่อเหตุวางระเบิดรถยนต์ เล็งเป้าหมายกองกำลังทหารที่มีขบวนรถผ่านมาบนถนนเดียวกับจุดเกิดเหตุในครั้งนี้ เหตุดังกล่าวสังหารหยื่อ 14 ราย บาดเจ็บอีก 145 คน มีทั้งเด็กและผู้หญิง
ส่วนเหตุวางระเบิดในงานแต่งงานเคยเกิดมาแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่กรุงคาบูล คนร้ายใช้วิธีจุดระเบิดพลีชีพแบบเดียวกันนี้ สังหารเหยื่อ 55 ราย แต่ครั้งนั้นกลุ่มตาลิบันปฏิเสธความเกี่ยวข้อง และเชื่อว่าวิธีการแบบนี้เป็นแนวทางของกลุ่มไอเอส